Menu
ตระกร้าสินค้า 0

[Q.4] ปัญหาที่มักจะพบใน กล้องฟิล์ม Rollei 35 พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น

Posted by นายกล้องฟิล์ม กล้องฟิล์มดีดี on

กล้องฟิล์มแต่ละรุ่นแต่ละเบรนที่ถูกออกแบบ มาแตกต่างกัน ไม่จะเป็นจะเป็นเรื่องกลไกล, การทำงาน, ดีไซน์, รูปลักษณ, วัสดุที่ใช้ผลิต รวมถึง การใช้งาน แน่นอนว่า ปัญหาที่จะพบในกล้องแต่ละรุ่นนั้นอาจจะมีความแตกต่างกัน

ในบทความนี้ผมจะมาว่ากันถึง ปัญญาที่มักจะพบบ่อยๆ ใน กล้อง Rollei 35 ทุกรุ่น พร้อมทั้งวิธีแก้ไขที่พอจะทำได้ ข้อมูลเหล่านี้ ผมได้รวบรวมไว้ จากลูกค้าที่ใช้กล้องแล้วได้แจ้งการเข้ารับบริการหลังการขาย ทั้งที่อยู่ในระยะประกัน และหลังระยะประกัน ย้อนหลังไป 7 ปี ตั้งแต่ที่เริ่มนำเข้ากล้องฟิล์ม Rollei 35 เข้ามาขายเป็นเจ้าแรกๆ ของตลาด 



ผมเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่ใช้งานกล้องฟิล์มเบรนนี้อยู่ หรือ คนที่กำลังเริ่มที่จะสนใจเล่น อย่างน้อย ข้อมูลนี้น่าจะเป็นข้อมูลใช้ในการตัดสินใจก่อนที่จะเสาะแสวงหามาใช้งานกัน 

ผมเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่ใช้งานกล้องฟิล์มเบรนนี้อยู่ หรือ คนที่กำลังเริ่มที่จะสนใจเล่น อย่างน้อย ข้อมูลนี้น่าจะเป็นข้อมูลใช้ในการตัดสินใจก่อนที่จะเสาะแสวงหามาใช้งานกัน 

เรามาดูกันว่าปัญหาที่เรามีโอกาสจะพบนั้นมีอะไรบ้าง เริ่มจากปัญหาที่พบมากสุดไปน้อยสุดตามลำดับนะครับ 

 

1. วัดแสงไม่ทำงาน หรือ ทำงานแต่ไม่เที่ยงตรง  

ปัญหานี้เป็นปัญหาคลาสิคเลยก็ว่าได้สำหรับกล้องทุกรุ่น เนื่องจากระบบวัดแสงของกล้องนั้น เป็นระบบที่มีอายุการใช้งาน และ เสื่อมลงไปเรื่อยๆ ตามอายุของมันเอง แต่ใช่ว่า จะแก้ไขไม่ได้เสมอไป ผมขอแยก เป็นสองประเด็นย่อยก่อนนะครับ 

1.1 วัดแสงไม่ทำงาน : ในกรณีนี้ อาการที่พบนั้น จะมีลักษณะการหยุดทำงานไปเลย หากเป็นแบบเข็ม ก็จะนิ่งไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากเป็นแบบไฟ LED ก็จะไม่มีไฟใดๆ แสดงผลแม้แต่น้อย สาเหตุหลักๆ อาจจะมาจากขั้วแบตนั้นสกปรก เราสามารถแก้ไขโดยการทำความสะอาดขั้วสัมผัสของแบตเตอรี่ โดยการใช้ปลายไขควง หรือวัสดุปลายแหลม มาขูดตรงบริเวณขัวแบตเพื่อขจัดพวกคราบออกไซด์ออกไป แล้วลองใส่แบตใหม่เข้าไปอีกครั้ง แล้วสังเกตผลลัพธ์ที่ได้ 

 
หากยังไม่ได้ผล และ เรามั่นใจว่าแบตเตอรี่นั้นยังมีพลังงานอยู่ นั้นเป็นไปได้สูงว่า เกิดจากเซลล์วัดแสงเสื่อม หรือ วงจรวัดแสงภายในตัวกล้องฟิล์มนั้นมีปัญหา กรณีนี้ต้องส่งช่างดูอย่างเดียวครับ โอกาสที่จะซ่อมได้ มีโอกาส 60-70%  

1.2 วัดแสงทำงานไม่เที่ยงตรง : ส่วนใหญ่อาการนี้เกิดจากพลังงานของแบตเตอรี่นั้นไม่เสถียร เราสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แต่หากปัญหานั้นยังไม่หาย เป็นไปได้สูง ที่มาจากอาการของตัวเซลล์วัดแสงนั้นเริ่มเสื่อมสภาพตามการเวลา หากความคลาดเคลื่อนนั้นไม่มาก หมายถึงไม่เกิด 1 Stop เราอาจจะพอที่จะให้ช่างทำการปรับจูนใหม่ให้ใกล้เคียงที่สุดได้ แต่หากความคลาดเคลื่อนนั้นสูงมาก แนะนำให้วัดแสงด้วยอุปกรณ์อื่นแทน เพราะปัญหานี้แก้ไขไม่ได้ ผมแนะนำให้ลองใช้ App ในมือถือวัดแสงดู มีมากมายให้เลือกหลายตัว และมีทั้งใน iOS และ Android มีความแม่นยำสูงมาก  

 

2. เลนส์ค้าง/ไกค้าง 

ปัญหานี้เกิดบ่อยมากในรุ่นประหยัด หมายถึง Rollei B35 หรือ 35 LED ส่วนในตัวมาตราฐานนั้นก่ะพบเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยเท่า สาเหตุๆ หลักๆ ของปัญหานี้ มักพบมาจากตัวผู้ใช้ มากการตัวกล้อง กล่าวคือ ปัญหานั้นมักมาจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง เช่น ดึงเลนส์ไม่สุดไม่บิดขวา เพื่อล๊อคเลนส์ก่อนใช้งาน ไม่ขึ้นไก หรือ ขึ้นไกไม่สุด ก่อนที่จะทำการเก็บเลนส์ 

บางครั้งทางร้านพบว่า ผู้ใช้บางคน มีการออกแรง ฝืนบิดเลนส์ หรือ ฝืนขึ้นไก กลายเป็นส่งผลให้กลไกล ภายในตัวกล้องเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง จนยากแก้การจะแก้ไข หากท่านเป็นคนนึงที่พบปัญหานี้ อยากให้ลองทบทวนวิธีใช้ให้ดีกว่า ว่าเราลืมทำขั้นตอนใดไป ตัวกล้อง ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย ที่สำคัญ อย่าฝืนใช้งาน ฝืนออกแรง เด็ดขาด และทางที่ดีที่สุด อยากจะแนะนำให้ ศึกษาวิธีการใช้งานให้ละเอียดก่อน อย่าลองผิดลองถูกเด็ดขาด 

 

3. สปีดชัตเตอร์ไม่ตรง 

ปัญหานี้เป็นปัญาที่พบบ่อยมากๆ ไม่แพ้สองอันดับข้างต้น รุ่นที่พบ ส่วนใหญ่จะพบในรุ่น Rollei 35SE, 35S ส่วน 35T,35TE และ 35 ก็พบบ้างแต่ไม่บ่อยมาก อาการที่เจอคือความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่า 1/15 วินาที บางครั้ง จะพบบว่าสปีดนั้นช้ากว่าปกติมาก หรือ บางครั้งก็กลายเป็น ชัตเตอร์ ไปแล้ว ปัญหานี้มาจะอายุการใช้งานของตัวกล้องล้วนๆ ครับ พบบ่อย และ มีโอกาสเจอกันทุกคน 


หากคุณยังไม่เจอปัญหานี้วันนี้ เชื่อผมได้เลย ว่าวันหน้าคุณได้เจอมันแน่นอน แต่ก็เป็นปัญหาที่ถือว่าไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นัก เพียงแต่เราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองแค่นั้นเอง  วิธีแก้มีวิธีเดียวคือ ต้องส่งช่างเพื่อทำการล้างชุดชัตเตอร์ หรือจะให้ดีก็ถือโอกาส ให้ช่างทำ CLA ไปเลยครับ เพื่อให้ได้มันใจว่ากล้องเราจะมีอายุการใช้งานไปได้อีกยาว ฉะนั้น เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับปัจจัย การเลือกซื้อโดยตรง  

อยากให้ผู้ที่กำลังสนใจจะมาเล่นกล้องฟิล์มรุ่นนี้ คิดและ พิจารณาก่อนตัดสินใจให้ดี ว่าหากเกิดปัญหา ท่านช่างที่รองรับการบริการแก้ปํญหาในส่วนนี้หรือไม่ หากซื้อตามร้านขายกล้อง ก่อนซื้อก็ต้องพิจารณาให้ดี ว่าบริการหลังการขายของแต่ละร้าน นั้นเป็นอย่างไร สามารถบริการเราได้หรือไม่ เพราะปัญหาของคนที่ใช้กล้องฟิล์ม เรื่องหนึ่ง ส่วนใหญ่ ที่เจอคือ ซื้อกล้องฟิล์มมา แต่พอมีปัญหา ก็มาสามารถหาร้านซ่อมได้ หรือ หากส่งซ่อมก็ใช้เวลานานเป็นเดือนๆ บางครั้งก็ไม่สามารถแก้ปัญหาให้หายขาดได้ เพราะว่าช่างขาดความชำนาญ 

 

 4. ตัวนับฟิล์มไม่เลื่อน

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในiรุ่น  B35 อาการจะมีลักษณะคือตัวนับฟิล์มไม่เลื่อนหลังจากขึ้นไกแล้ว หรือ เลื่อนบ้างไม่เลื่อนบ้าง หรือ เลื่อนไปถึงเลขนึงแล้วไม่เดินต่อไปอีกเลย หากคุณพบอาการดังกล่าว วิธีแก้ไขคือต้องส่งช่างอย่างเดียวเลยครับ ไม่สามารถแก้ไขได้

 

แต่อาการนี้ ยังสามารถพบบ้างได้ในรุ่นมาตราฐาน ที่มีตัวนับฟิล์มอยู่ที่ฝาหลัง ได้แก่รุ่น Rollei 35,35T,35TE,35S และ 35SE ซึ่งโชคดีที่เราอาจจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง

สาเหตุที่พบ เกิดจากการใส่ฝาหลังไม่แน่น ไม่สนิท ทำให้เข็มตัวที่ทำหน้าที่เขี่ย ตัวเฟืองตัววัดแสงนันไม่สบกันทำให้ ไม่สามารถดันให้ตัวนับฟิล์มเลื่อนได้ เราเพียงแต่ ถอดฝาหลังแล้วดันกลับเข้าไปใหม่ ก็จะแก้ปัญหาได้ครับ

แต่หากปัญหานั้นยังไม่หายไป ต้องกลับไปเช็คตัวฝาหลังว่าตัวเฟืองเลขนับฟิล์มนั้น ฝืด หรือมีอะไรติดขัดหรือไม่ หากแก้ไม่ได้แนะนำให้ส่งช่างผู้ชำนาญตรวจเช็คจะดีกว่าครับ

 

5. วงแหวน Serial Number หน้าเลนส์หลุด 

ปัญหานี้เจอเฉพาะรุ่น Rollei 35S หรือ 35 SE เท่านั้น เป็นปัญหาที่พบบ่อย และป้องกันได้ สาเหตุ เกิดจาก กาที่ยึดวงแหวน Serial Number ด้านหน้านั้นเสื่อม ทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะนั้นเสื่อม ทำให้หลุดออกมาได้  หากพบปัญหานี้ เราเองสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง 

แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราแก้ไขได้เอง ปัญหาคือ เราจะไม่รู้ตัวเลยว่ามันหลุด และถ้าหลุดแล้ว หาอะไหล่ใส่ยากมาก และ Serial Number ก็จะไม่ตรงกับของเราอีก ทางผู้เขียน เลยอยากจะแนะนำให้ป้องกัน ไม่ให้วงแหวน Serial Number หล่นหายไว้ก่อนดีกว่า 

ส่วนวิธีป้องกัน ที่ง่ายมากครับ  คือการใส่ Filter UV ครับ เมื่อไหร่ ที่วงแหวนมันหลุด มันก็ยังไม่หล่นหายไปไหน ในปัจจุบันก็มีร้านที่จำหน่ายอยู่หลายที่อยู่เหมือนกัน มีหลายเกรด หลายราคา หลายเบรนให้เลือกสรร โดยขนาดที่ใช้ จะเป็น Filter 30.5mm  

 

6. เลนส์ไหลเวลาคว่ำกล้องลง 

จริงๆปัญหานี้ผมไม่ได้มองว่าเป็นปัญหานะ มองเป็นไปในเรื่องของสภาพกล้องมากกว่า

เพราะเลนส์ชองกล้องฟิล์ม Rollei 35 นั้นมีลักษณะเป็น collapse lens คือมีลักษณะที่ต้องยืดออกมาก่อนที่จะใช้งาน เพื่อให้เลนส์มีระยะตกกระทบของภาพบนระนาบฟิล์มได้พอดี และลักษณะของเลนส์แบบนี้แหละ ที่จะมีความหลวมขึ้น

จากการที่เราต้องยืดเข้ายืดออกก่อนที่จะใช้งาน หากใช้บ่อยๆ ก็จะมีความฝืดน้อย เบ้าเลนส์ ดูไม่แน่น แต่เมื่อบิดตามเข็มเพื่อล๊อคเลนส์แล้ว เลนส์ก็จะแน่นไม่คลอน อาการแบบนี้ จะเป็นตัวบอก สภาพกล้องว่าใช้งานมาหนักหน่วงเพียงใด  ช่างสามารถแก้ไขได้บ้างไม่ให้มันหลวมมาก แต่ครั้นจะให้แน่น ฝืดเหมือนตอนออกจากโรงงานใหม่ๆ นั้น เป็นไปไม่ได้เลย 

 

ส่วนร้านที่รับซ่อมกล้องฟิล์มนั้น ทางผู้เขียนเคยได้รวบรวมไว้แล้วในบทความก่อนหน้านี้ ท่านสามารถเข้าไปดูได้ตาทลิ้งข้างล่างนี้ครับ  

https://www.siamklongfilm.com/blogs/info/fixfilmcamera 

 

 

 

สรุปที่กล่าวมา

ปัญหาที่พบบ่อยๆ ในกล้องฟิล์ม Rollei 35
1. วัดแสงไม่ทำงาน/ทำงานไม่ตรง: 
สาเหตุ ขั้วแบตสกปรก แบตอ่อน หรือ เซลล์วัดแสงเสื่อมตามอายุ 

2. เลนส์ค้าง/ไกค้าง: ส่วนใหญ่มากจากการใช้งานผิด ให้ศึกษาวิธีการใช้ให้ดี

3. สปีดชัตเตอร์ไม่ตรง: เป็นไปตามอายุ ทุกคนมีโอกาสเจอ ต้องส่งช่างล้างชุดชัตเตอร์ หรือ ถ้าจะให้ดี ส่งทำ CLA ไปเลยดีกว่า

4. ตัวนับฟิล์มไม่เลื่อน: พบบ่อยในรุ่น B35 แก้ไขไม่ได้ต้องส่งช่างอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นร่นมาตราฐาน ให้ลองถอดฝาหลังแล้วใส่กลับไปใหม่ จะมีโอกาสหาย

5. วงแหวน Serial Number หน้าเลนส์หลุด: เจอเฉพาะรุ่น 35S และ SE เกิดจากกาวเสื่อม ป้องกันไม่ให้หล่นหายได้โดยใส่ Filter UV

6. เลนส์ไหลเวลาคว่ำกล้องลง: เป็นเรื่องของสภาพกล้องมากกว่าเรื่องของปัญหา เกิดจากการใช้งาน ยิ่งใช้งานหนัก ใช้งานเยอะ จะยิ่งพบ แก้ไขได้ แต่ไม่ 100%

 

 หากคุณพบปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ทางผู้เขียนกล่าวมา รบกวนแชร์ให้ฟังหน่อยนะครับโดยการ Comment ข้อความด้านล่างนี้ ทางผู้เขียนจะหาข้อมูลวิธีแก้ แล้วแชร์ให้เพื่อนๆรับทราบอีกที

 

 


Share this post



← Older Post


Leave a comment

Please note, comments must be approved before they are published.