วิธีใช้งาน กล้องฟิล์ม Rollei 35 TE/SE สำหรับมือใหม่

Rollei 35 TE/SE เป็นรุ่นที่พื้นฐานเหมือน Rollei 35 โดยมีการปรับปรุงระบบวัดแสง จากเดิมที่เป้นแบบเข็ม ให้มาแสดงผลด้วยไฟ LED ในช่องมอง เหมือนรุ่น Rollei 35TE กล้องฟิล์มรุ่นนี้ ถือว่า เป็นตัว ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดของตระกูล Rollei 35  ในรุ่นพื้นฐานเลยทีเดียว ด้วยเลนส์ที่ดีที่สุดใน และ ระบบวัดแสงที่ใหม่ที่สุด

 อยากรู้ข้อมูลรุ่นต่างๆของ Rollei 35 เข้าไปอ่า่นได้ที่นี่เลย >>>  คลิ๊กซะ

เข้าเรื่องเลยดีกว่า ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จัก กล้องรุ่นนี้กันดีกว่า ซึ่งแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ ได้ตามนี้
-  รู้จักตัวกล้อง
-  การจัดองค์ประกอบของถ่ายภาพ
- ลักษณะการวัดแสง
- การโฟกัส
- การโหลดฟิล์มและเอาฟิล์มออก 

ซึ่งข้อมูลดังกล่าว สามารถใช้ได้ทั้ง Rollei 35 SE และ Rollei 35 TE เพราะพื้นฐานทุกอย่างเหมือนกัน บยกเว้นแค่เลนส์

// รู้จักตัวกล้อง //

1. รูรับแสงไว้สำหรับให้แสงเข้า
เป็นช่องที่ให้แสงเข้าเพื่อให้กล้องคำนวณ ปริมาณแสง และบอกเราว่า การตั้งค่ากล้องในสภาพแสงขณะนั้น มืดไป หรือสว่างไป

2. วงแหวนปรับ ISO
ไว้ปรับ ISO ของกล้อง โดยต้องตั้งให้ตรงกับฟิล์มที่เลือกใช้

3. วงแหวนปรับ รูรับแสง (Aperture)
ตัวเลขยิ่งมาก รูรับแสงยิ่งแคบ ยิ่งลดปริมาณแสง จะยื่งมืด

4. สลักปลดล๊อควงแหวนรูปรับแสง
กดเมื่อต้องการปรับรูรับแสง (มีเฉพาะบางล๊อตเท่านั้น)

5. วงแหวนปรับ ความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter)
ตัวแรกยิ่งมาก ม่านชัตเตอร์  ยิ่งปิดไว ยิ่งลดปริมาณแสง จะยื่งมืด

6. วงแหวน Film Type Indicator
ไม่มีผลกับภาพ เราตั้งเพื่อให้จำได้ ว่าใส่ฟิล์มแบบไหนลงไปในกล้อง ไม่ต้องตั้งก็ได้ หากเราจำได้ว่าเราใช้ฟิล์มอะไร อยู่  ประเภทของฟิล์มที่มีให้เลือก ก็มี ฟิล์มสี, ฟิล์มขาวดำ, ฟิล์ม Daylight และ ฟิล์ม Tungsten.

7.. สลักปลดล๊อคเลนส์
ไว้ใช้ตอน จะดึงเลนส์ ตอนใช้งาน และ ดันเลนส์ให้เข้าไปเก็บไปบอดี้เมื่อเลิกใช้ ห้ามลืมเด็ดขาด

8. ไกขึ้นฟิล์ม (Lever)
ไว้เลื่อนฟิล์ม ไปรูปถัดไป หรือ เฟรมถัดไปถ้าไม่ขึ้น จะทำให้ ไม่สามารถกดปุ่มชัตเตอร์ได้ 
*เวลาขึ้นไก ต้องขึ้นให้สุด ถ้าไม่สุด มีโอกาสทำให้กล้องเสียหายได้
** ตอนจะเก็บเลนส์ เข้าไปในบอดี้ ต้องขึ้นไกทิ้งไว้ ถ้าไม่ขึ้น จะไม่สามารถเก็บเลนส์ได้ ถึงแม้ จะดันสลักปลดล๊อคเลนส์แล้วก็ตาม 

9. สลักเปิดช่องใส่แบตเตอรี่
ดันเมื่อต้องการเปิดช่องใส่แบตเตอรี่  ให้ดันไปด้านขวาตามทิศของลูกศร

10. สลักปลดล๊อคเพื่อกรอฟิล์ม
ดันสลักให้สุด ตามรูป เพื่อใช้กรอฟิล์มกลับตอนถ่ายหมดม้วนแล้ว ถ้าไม่ดัน จะทำให้ไม่สามารถกรอฟิล์มกลับได้ ตามรูปนี้

11. ช่องมองภาพ (View Finder)
ไว้เล็งเพื่อจัดองค์ประกอบ (Composition)ของภาพ โดยกรอบเล็กจะใช้เมื่อแบบ อยู่ไกลกว่า 3 เมตร ส่วนกรอบใหญ่ไว้ใช้สำหรับ แบบที่อยู่ใกล้กว่า 3 เมตร 

12. ปุ่มกดชัตเตอร์
ไว้เพื่อลั่นชัตเตอร์ เมื่อต้องการถ่ายภาพ

13. ช่องใส่แบตเตอรี่
เปิดได้โดย ดันสลักในข้อ 9

14. ก้านกรอฟิล์ม
ไว้กรอฟิล์มกลับเข้าไปในม้วน เมื่อถ่ายจนหมดม้วนแล้ว โดยให้หมุนตามทิศทางของลูกศร

15. ตัวเลขนับฟิล์ม (Film Counter)
ตัวเลขนับฟิล์ม เพื่อให้ทราบว่ารูปนั้นอยู่เฟรมที่เท่าไหร่แล้ว 

16. ช่องเสียบเฟลช (Hot Shoe)
ไว้เพื่อต่อแฟลชแยก

17. สลักเปิดฝาหลัง
ไว้สำหรับเปิดฝาหลังเพื่อโหลดฟิล์ม หรือ เอาฟิล์มออก

18. แป้นโฟกัส
มีไว้ปรับระยะโฟกัสให้ตัวแบบชัด ตัวเลขที่ ส้ม จะเป็นระยะที่มีหน่วนเป็นฟุต ในขณะที่ตัวเลขสีขาว บรรทัดถัดมา จะเป็นหน่วยเป็นเมตร

// การจัดองค์ประกอบ ในเฟรม //

 เราจะเห็นว่าใช่ช่องมองภาพจะมี Frame Line จางๆ อยู่ในภาพ เพื่อให้เรา จัดองค์ประกอบของภาพตามรูป

 ทำไมต้องมี Frame Line เราเล็งจากช่อง แล้ว ถ่ายตามนั้นเหมือนกล้องทั่วไปไม่ได้หรอ?

เป็นคำถามคาใจ สำหรับมือใหม่ หลายๆคนแน่นอน เหตุผลคือ เพราะกล้องฟิล์ม Rollei 35 เป็นกล้อง Range Finder ที่มีลักษณะเฉพาะ คือ ช่องที่ใช้ เล็ง เป็นคนละช่องกับช่องที่ใช้ถ่าย ทำให้รูปที่ได้ จะไม่เหมือน ที่เราเห็นในช่องมองภาพสักทีเดียว อาจจะมี ตกขอบบ้าง ล้นบ้าง เบ้ซ้ายเบ้ขวาบ้าง ดูจากรูปนี้แล้วจะเข้าใจ

เพราะฉะนั้น การที่จะได้ภาพตามที่ตาเห็นในช่องมองภาพเป๊ะๆ นั้น "เป็นไปไม่ได้"  เราจึงต้องมีเส้น  Frame Line เข้ามาช่วย กะ ประมาณภาพที่จะได้ ให้เราอีกที

ซึ่งเทคนิคนั้นไม่ได้ยากเลย ตามคู่มือกล้อง ได้บอกไว้ว่า ถ้าวัตถุหรือแบบ นั้นอยู่ไกลกว่า 3 เมตรให้เราใช้ Frame เล็ก หรือ กรอบด้านใน ตามภาพ

 แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่วัตถุหรือแบบ นั้นอยู่ใกล้กว่า 3 เมตรให้เราใช้ Frame ใหญ่ หรือ กรอบด้านนอก

อะไรที่อยู่นอกเฟรม จะไม่ปรากฎอยู่ในภาพที่เราจะได้

สรุปคือ..

ใกล้กว่า 3 เมตรเฟรมนอก ไกลกว่า 3 เมตรเฟรมใน เจริญพร
 

// การวัดแสง //

ระบบวันแสงของรุ่น TE/SE จะแสดงสถานะโดยหลอดไฟ LED ตำแหน่องจะอยู่ทางด้านขวา ซึ่งจะแสดงสถานะได้ตามนี้

สว่างไป 
ไฟสีแดงด้านบน จะติด 1 ดวง

มืดไป
ไฟสีแดงด้านล่าง จะติด 1 ดวง

แสงพอดี
ไฟสีเขียวตรงกลาง จะติด 1 ดวง

วัดแสงไม่ได้
ไฟสีแดงจะติดทั้ง บนและล่าง จะติดรวมเป็น 2 ดวง เนื่องจาก สภาวะแสงที่เราจะถ่าย ณ ขณะนั้นอาจจะ มืดมากๆ หรือ สว่างมากๆ จนเกินขีดความสามารถของกล้องที่จะวัดได้

 คลิปสดเรื่องระบบวัดแสง ดูกันชัดๆ

// การโฟกัส (Focus) //

 กล้องฟิล์ม Rollei 35 ทุกรุ่นเป็นการโฟกัสแบบ "กะระยะ" กล่าวคือ ผู้ถ่ายต้อง คาดคะเน ประมาณ ว่าระยะจากกล้องไปถึงตัวแบบ นั้นยาวเท่าไหร่ แล้วให้ไปตั้งตรงค่าเลนส์ ตามระยะที่ผู้ถ่ายประมาณเอาไว้ ซึ่งการโฟกัสแบบนี้เราเรียกเป็นทางการว่า Distance Focusing

 จากรูป ตัวเลขที่ ส้ม จะเป็นระยะที่มีหน่วนเป็นฟุต ในขณะที่ตัวเลขสีขาว บรรทัดถัดมา จะเป็นหน่วยเป็นเมตร

ดูตัวอย่างง่ายๆนี้ จะช่วยให้เข้าใจขึ้น




หากเราต้องการ ถ่ายหมี เราไปปรับ Focus ที่เลนส์ให้อยู่ที่เลข 3 คือระยะ 3 เมตร
หากเราต้องการ ถ่ายต้นไม้สีแดงเราไปปรับ Focus ที่เลนส์ให้อยู่ที่เลข ก่อนถึงเลข 6 เล็กน้อย ซึ่งเป็นระยะ 5 เมตร

ในการปรับโฟกัส จะสัมพันธ์กับรูรับแสงที่เราเลือกใช้ โดยจะส่งผลระยะชัดลึกที่เราเรียกว่า Depth Of Field ซึ่งจะขอเล่าใน บทความถัดไปอย่างเจาะลึกอีกทีนะครับ

// การโหลดฟิล์มและเอาฟิล์มออก //

ดึงเลนส์ออกจากเบ้าตรงๆ แล้วบิดไปทางขวา ตามเข็มนาฬิกา ให้ได้ยินเสียงดัง "คลิ๊ก" เบาๆ 

เริ่มจากการเปิดฝาหลัง โดนการดัน สลักให้เป็นดังภาพ ถอดฝาหลังออกมา โดยให้ใช้มือดังออกมาตามภาพนี้ (เหมือนเรากำลังจะสับไพ่)

เปิดตัวทับฟิล์ม ออกแล้ว ใส่ฟิล์มเข้าไปลงในเบ้า ให้ตรงตามรูปดึงหัวฟิล์มออกมาทีละน้อยแล้ว ยัดเข้าไปใน ร่องของแกนฟิล์มให้แน่น แล้วปิดตัวหนีบฟิล์ม 

ลองขึ้นไก แล้วกดชัตเตอร์ทิ้ง สัก 3-4 ครั้ง เพื่อให้ฟิล์มถูกโหลดแล้ว ม้วนเข้าไปในแกน อย่างแน่นหนา แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าหัวฟิล์มนั้นจะไม่หลุดออกจาก แกน

ปิดฝาหลังเข้าไป โดยดูให้ตรงร่อง  แล้วดันให้สุด    ปิด Lock สลักให้เรียบร้อย 

ขึ้นไกฟิล์ม  1 ครั้ง เพื่อพร้อมถ่ายภาพเฟรมแรก เป็นอันเสร็จพิธี

 // กรอฟิล์ม //

ส่วนวิธีเอาฟิล์มออกมาเมื่อเราถ่ายจนหมดม้วนแล้ว ให้ดันสลักปลดล๊อคเพื่อกรอฟิล์ม ให้สุดจน ตั้งฉาก ตามภาพนี้

เปิดคันโยก แลัวหมุน ตาม ลูกศรชี้ ไปเรื่อยๆ จะรู้สึกว่า มันลื่น จาก ที่แรกๆ จะหนืดๆ หน่อยเปิดฝาหลังเอาฟิล์ม ออกมาให้ทางร้านที่บริการ รับล้างฟิล์ม ได้เลยครับ

ถ้ายังไม่รู้จะเอาฟิล์มไปล้างที่ไหน คลิ๊กลิ้งนี้เลยครับ รวบรวมไว้ให้แล้ว 

https://www.siamklongfilm.com/blogs/info/serviceshop

หรือ  ดูได้จากคลิปนี้เลยนะครับเพราะ จะเห็นภาพ เข้าใจง่ายกว่า

ข้อมูลที่ได้รวมรวมไว้ให้อ่านง่ายๆ น่าจะทำให้เพื่อนๆ เข้าใจการใช้งานกล้องตัวนี้ไม่มากก็น้อยแล้วนะครับแต่หาก ถ้ายังมีข้อสงสัยประการใด สอบถามทางร้านได้เลยจากข้อมูลข้างล่างนี้ อย่าเกรงใจ อย่างลองผิดลองถูกเอง อย่าถามคนที่ไม่เคยใช้งานกล้องรุ่นนี้ เพราะมันอาจจะทำให้กล้องเสียหายได้  จริงๆ นะเชื่อ แอดมินเถอะ เพราะโดนมาแล้ว...

ติดต่อสอบถาม หนุ่ม (นายกล้องฟิล์ม)
Tel : 081-6165665
Line : klongfilmdd
Email: klongfilm@gmail.com
IG : Klongfilmdd
Website : www.siamklongfilm.com